A Comparative of Mathematical Model for Solving the Optimal Lane Depth with the Infinite and the Finite Production Rate Model: A Case Study of the ABC Warehouse

Abstract

ต้นทุนการบริหารจัดการด้านคลังสินค้าถือเป็นต้นทุนหลักในระบบโลจิสติกส์ โดยการจัดเก็บสินค้าถือว่าเป็นกิจกรรมหลักของคลังสินค้า ซึ่งโดยทั่วไปจะมีระบบการจัดเก็บที่หลากหลายตั้งแต่การจัดเก็บแบบวางกองซ้อนไปจนถึงการจัดเก็บแบบอัตโนมัติ การศึกษาวิจัยครั้งนี้ได้ศึกษาระบบการจัดเก็บแบบวางกองซ้อน เนื่องจากเป็นระบบที่ได้รับความนิยม มีความยืดหย่นุ สูงต้นทุนต่ำ เหมาะกับสินค้าที่มีอัตราการหมุนเวียนสูง แม้ว่าจะเกิดความสูญเปล่าของพื้นที่โดยรวมมาก ทำให้มีอรรถประโยชน์ด้านพื้นที่ต่ำ การออกแบบรูปแบบการจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพโดยการกำหนดความลึกช่องเก็บสินค้าที่เหมาะสมถือเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตาม การกำหนดความลึกช่องเก็บสินค้าภายใต้อัตราการเข้ามาของสินค้าที่จำกัดยังไม่ค่อยพบในการศึกษาที่ผ่านมา งานวิจัยนี้จึงได้ใช้ตัวแบบคณิตศาสตร์สำหรับการหาความลึกช่องเก็บสินค้า ได้แก่ ตัวแบบไม่จำกัด คือตัวแบบคณิตศาสตร์ที่ไม่พิจารณาอัตราการเข้ามาของสินค้า หรือ P = ∞ และตัวแบบจำกัด คือตัวแบบคณิตศาสตร์ที่มีการพิจารณาอัตราการเข้ามาของสินค้าด้วย หรือ P ≠ ∞ เพื่อเปรียบเทียบว่าความลึกช่องเก็บสินค้าจากตัวแบบใดจะทำให้เกิดความสูญเปล่าโดยรวมเฉลี่ยน้อยที่สุด ซึ่งจากการศึกษาพบว่า ตัวแบบจำกัดให้ความลึกช่องเก็บสินค้าที่ทำให้เกิดความสูญเปล่ารวมเฉลี่ยน้อยกว่าความลึกช่องเก็บสินค้าที่ได้จากตัวแบบไม่จำกัด

Warehouse management costs are the major cost in the logistics system. The main activity in the warehouse is storage, which comes with different storage systems ranging from block stacking to automated storage. This study are concentrated on block stacking system, because of its widespread use, high flexibility, low cost and suitability for high inventory turnover. However, it causes potential loss of storage space within the warehouse that affects the facility's space utilization. Designing a block stacking system by determining the optimal lane depth is one way to solve the problem. However, studies on determining the optimal lane depth under the finite production rate constraint has not been carried out so far. This research applied two mathematical models to compute the optimal lane depth, the infinite model (P = ∞) does not consider the production rate but the finite model (P ≠ ∞) does in order to compare the average waste of storage space. It has been found that the finite model gives less average waste of storage space than its counterpart.