Editorial Policies
- Focus and Scope
- Section Policies
- Peer Review Process
- Publication Frequency
- Open Access Policy
- Publishing Ethics and plagiarism policy
Focus and Scope
ขอบเขตของบทความวิจัย/บทความวิชาการ ประกอบด้วย
- ด้านวิศวกรรมศาสตร์
- ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์
- ด้านอุตสาหกรรมเกษตร
- ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
- ด้านสถาปัตยกรรม
- ด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม
Section Policies
บรรณาธิการปริทัศน์ (Editorial Corner)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย (Research Article)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
ด้านวิทยาศาตร์และเทคโนโลยี
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
Academic Article
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย ด้านวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering Research Articles )
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ (Applied Science Research Articles)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Research Articles )
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย ด้านสถาปัตยกรรม (Architecture Research Articles)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย ด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม (Industrial Development Research Articles)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัย ด้านภูมิศาสตร์ (Geography Research Article)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิชาการ (Academic Article)
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บทความวิจัยจาก ECTI
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
ปกวารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
บรรณาธิการ วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
คำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับบทความ
- Open Submissions
- Indexed
- Peer Reviewed
Peer Review Process
วารสารวิชาพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มีการประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกจากหลากหลายสถาบัน โดยทั้งผู้นิพนธ์ (Author) และผู้ประเมิน (Reviewer) จะไม่ทราบข้อมูลรายชื่อของกันและกัน (Double-blind review) โดยที่ผู้ประเมินจะพิจารณาประเด็นที่สำคัญของแต่ละบทความดังต่อไปนี้
1. ผลการวิจัยที่แสดงในบทความจะต้องเป็นผลงานที่แท้จริงของผู้นิพนธ์เอง และต้องหลีกเลี่ยงการคัดลอกผลงาน (Plagiarism)
2. วิธีการและการวิเคราะห์การทดลอง ต้องมีมาตรฐานทางเทคนิคที่ได้รับการยอมรับ และจะต้องอธิบายในรายละเอียดอย่างเป็นระบบและสมเหตุสมผล นอกเหนือจากนี้แล้ว การเขียนผลการทดลองจะต้องอภิปรายอย่างดีและเพียงพอ สอดคล้องกับผลสรุปที่ได้มีการวิเคราะห์เชิงสถิติอย่างเหมาะสม
3. การอภิปรายผลและการสรุปในบทความ ต้องมีข้อมูลที่ปรากฏรวมถึงเอกสารอ้างอิงที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการเขียน บทความที่ส่งมาพิจารณาตีพิมพ์ควรเขียนด้วยภาษาทางวิชาการให้เหมาะสมสำหรับการตีพิมพ์ในวารสารทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
4. บทความต้นฉบับ ต้องเขียนด้วยภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ให้มีความคงที่ของภาษาที่เลือกทั้งบทความ เช่น เลือกใช้ภาษาไทยในการเขียนทั้งบทความ และมีการแปลคำศัพท์เทคนิคเป็นภาษาไทยอย่างเหมาะสม โดยมีความชัดเจน ตรงไปตรงมา และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
5. งานวิจัยต้องดำเนินการตามมาตรฐานของหลักจริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้อง หากมีการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์ควรบ่งชี้ว่า ได้ดำเนินการวิจัยตามกระบวนการที่เป็นไปตามมาตรฐานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์
6. บรรณาธิการสามารถยุติการประเมินบทความของผู้ประเมิน หากพบว่าไม่สามารถปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือเงื่อนไข หรือเมื่อผู้ประเมินได้ตกลงที่จะประเมินบทความแล้ว ต่อมาพบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน สามารถแจ้งบรรณาธิการโดยทันที เพื่อที่จะปฏิเสธการประเมินบทความนั้นต่อไป
สำหรับรายงานความเห็นผู้ประเมินบทความควรพิจารณาในประเด็นต่างๆ ได้แก่
- ผลงานวิจัยมีความริเริ่มสร้างสรรค์ ไม่ซ้ำซ้อนกับงานที่ตีพิมพ์มาแล้ว และมีมาตรฐานทางวิชาการ
- ทำการวิเคราะห์ว่าบทความมีการค้นพบใหม่ด้านใดหรือไม่ บทความมีการอ้างอิงเอกสารหรือบทความที่ตีพิมพ์แล้วที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อการสนับสนุนเนื้อความและผลการวิเคราะห์หรือไม่
- ผู้อ่านกลุ่มใดที่จะได้ประโยชน์จากการอ่านบทความและตรงตามกลุ่มเป้าหมายผู้อ่านของวารสารหรือไม่
- บทความที่ประเมินสามารถนำไปสู่การต่อยอดงานวิจัยได้หรือไม่
- บทความถูกเขียนมาด้วยภาษาทางวิชาการที่มีการเรียงลำดับเนื้อเรื่องตามหลักตรรกะ และภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจ และมีส่วนใดของการเขียนที่ควรปรับปรุงหรือไม่
- การบรรยายผลการทดลองเพียงพอที่ใช้สนับสนุนการวิเคราะห์และสรุปผลการทดลองหรือไม่ หากไม่เพียงพอควรทำการปรับปรุงอย่างไร
- การบรรยายส่วนของวิธีการทดลองในบทความเพียงพอที่จะสามารถทำการทดสอบซ้ำ หรือพิสูจน์ความถูกต้องของการทดลองหรือไม่
Publication Frequency
กำหนดออกวารสาร ปีละ 4 ฉบับ คือ
ฉบับที่ 1 มกราคม - มีนาคม
ฉบับที่ 2 เมษายน - มิถุนายน
ฉบับที่ 3 กรกฎาคม - กันยายน
ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม
Open Access Policy
วารสารนี้สามารถเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีนโยบายที่ทำให้งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ได้รับการอ่านและสามารถถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในระดับสากล
Publishing Ethics and plagiarism policy
กระบวนการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารนี้ เป็นกระบวนการทำงานที่มีความเกี่ยวโยงอย่างเป็นระบบของ ผู้นิพนธ์ ผู้ประเมิน บรรณาธิการ และฝ่ายประสานงานและจัดการ ดังนั้น เพื่อรักษามาตรฐานทางจริยธรรมของการตีพิมพ์เผยแพร่ และการทำงานอย่างมีมารยาทในวงการวิชาการ ฝ่ายประสานงานและจัดการจะทำงานกับบรรณาธิการ ผู้นิพนธ์ และผู้ประเมินอย่างใกล้ชิด วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือได้กำหนดความรับผิดชอบทางจริยธรรมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ละภาคส่วน ดังต่อไปนี้
Editors Responsibilities:
1. บรรณาธิการและ/หรือกองบรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณาและตรวจสอบบทความที่ส่งมาเพื่อเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์กับวารสารทุกบทความ โดยพิจารณาเนื้อหาบทความที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของวารสาร รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพบทความในกระบวนการประเมินและคุณภาพบทความก่อนการตีพิมพ์ และคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตัดสินขั้นสุดท้ายทุกบทความที่ได้มีการประเมินสำหรับการพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร
2. บรรณาธิการพึงรักษาไว้ซึ่งความโปร่งใสของการวิจัยด้วยมาตรฐานทางจริยธรรม และจะยินดีรับพิจารณาที่จะเพิกถอนการตีพิมพ์ หรือแก้ไขคำผิด หากได้รับการแจ้งและร้องขอจากผู้นิพนธ์
3. บรรณาธิการควรดำเนินการตัดสินใจพิจารณาต้นฉบับบทความ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่มีคุณภาพ โดยปราศจากการตัดสินใจที่มีอคติใดๆ
4. บรรณาธิการควรประเมินบทความต้นฉบับบนพื้นฐานคุณค่าเชิงวิชาการ และปราศจากผลประโยชน์ทางการค้าหรือผลประโยชน์ส่วนตน
5. บรรณาธิการไม่ควรเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความที่ส่งเข้ามารับการพิจาณาก่อนการตีพิมพ์
6. บรรณาธิการควรตรวจสอบโดยทันทีและอย่างละเอียด หากมีข้อสงสัยการประพฤติผิดในการวิจัย ตามอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม
Reviewers Responsibilities:
1. ผู้ประเมิน ควรประเมินบทความในสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ ต้องคำนึงถึงคุณภาพบทความเป็นหลัก พิจารณาบทความอย่างละเอียดเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการ โดยปราศจากอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้นิพนธ์ และแจ้งผลการประเมินภายในระยะเวลาที่กำหนดจากบรรณาธิการ
2. ผู้ประเมินทำการประเมินบทความต้นฉบับที่ได้รับในด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คุณค่าทางวิชาการ ความสมบูรณ์ของเนื้อหาและโครงสร้าง ภาษาที่ใช้ ความชัดเจนของสมมติฐาน/วัตถุประสงค์ ความชัดเจนของการนำเสนอและการจัดระเบียบบทความ ความถูกต้องทางวิชาการ การอภิปรายผล และการอ้างอิงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตลอดจนให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพของบทความ
3. ผู้ประเมินไม่ควรเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความที่ส่งมารับการพิจารณาก่อนการตีพิมพ์
4. ผู้ประเมินต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์หรือเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นอย่างอิสระได้ โดยผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้น
5. ผู้ประเมินต้องแจ้งบรรณาธิการ เมื่อพบหลักฐานการกระทำผิดใดๆ ของจริยธรรมการวิจัยในบทความที่ทำการประเมิน
Authors Responsibilities:
1. บทความทุกส่วนที่ปรากฏในต้นฉบับบทความจะต้องเป็นงานใหม่ที่ได้มาจากข้อเท็จจริงจากการศึกษา ไม่บิดเบือนข้อมูล ไม่มีข้อมูลที่เป็นเท็จ และปราศจากการคัดลอกผลงาน
2. บทความไม่ควรถูกตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อน หรือถูกส่งไปรับการพิจารณาในวารสารอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน
3. ผู้นิพนธ์ต้องเปิดเผยผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างชัดเจน
4. ผู้นิพนธ์ต้องเขียนกิตติกรรมประกาศให้ชัดเจน รวมถึงระบุแหล่งทุนวิจัยที่สนับสนุน
5. ข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กรจะต้องได้รับการอนุญาตจากองค์กรที่เกี่ยวข้องก่อน
6. ผู้นิพนธ์ที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคน ต้องเป็นผู้ที่ดำเนินการวิจัยหรือมีส่วน
ISSN: 2985-2145