Page Header

Editorial Policies

Focus and Scope

ขอบเขตของบทความวิจัย/บทความวิชาการ ประกอบด้วย

- ด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม
- ด้านทรัพยากรมนุษย์
- ด้านการบริหารจัดการองค์กรในภาครัฐและเอกชน
- ด้านอุตสาหกรรมสัมพันธ์

 

Section Policies

ปกวารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed

กองบรรณาธิการ

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed

บทบรรณาธิการ

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed

Articles

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed

บทความวิจัย (Research Article)

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed

บทความวิชาการ (Academic Article)

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed

คำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับบทความ

  • Checked Open Submissions
  • Checked Indexed
  • Checked Peer Reviewed
 

Peer Review Process

วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม มีการประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน ซึ่งทั้งผู้นิพนธ์ (Author) และผู้ประเมิน (Reviewer) จะไม่ทราบข้อมูลรายชื่อของกันและกัน (Double-blind review) โดยที่ผู้ประเมินจะพิจารณาประเด็นที่สำคัญของแต่ละบทความดังต่อไปนี้ 

1. ผลการวิจัยที่แสดงในบทความจะต้องเป็นผลงานที่แท้จริงของผู้นิพนธ์เอง และห้ามการคัดลอกผลงาน (Plagiarism)

2. วิธีการและการวิเคราะห์การทดลอง ต้องมีมาตรฐานทางเทคนิคที่ได้รับการยอมรับ และจะต้องอธิบายในรายละเอียดอย่างเป็นระบบและสมเหตุสมผล นอกเหนือจากนี้แล้ว การเขียนผลการทดลองจะต้องอภิปรายอย่างดี สอดคล้องกับผลสรุปที่ได้มีการวิเคราะห์เชิงสถิติอย่างเหมาะสม

3. การอภิปรายผลและการสรุปในบทความ ต้องมีข้อมูลที่ปรากฏรวมถึงเอกสารอ้างอิงที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการเขียน บทความที่ส่งมาพิจารณาตีพิมพ์ควรเขียนด้วยภาษาทางวิชาการให้เหมาะสมสำหรับการตีพิมพ์ในวารสารทางด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์

4. บทความต้นฉบับ ต้องเขียนด้วยภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ให้มีความคงที่ของภาษาที่เลือกทั้งบทความ เช่น เลือกใช้ภาษาไทยในการเขียนทั้งบทความ และมีการแปลคำศัพท์เทคนิคเป็นภาษาไทยอย่างเหมาะสม โดยมีความชัดเจน ตรงไปตรงมา และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ 

5. งานวิจัยต้องดำเนินการตามมาตรฐานของหลักจริยธรรมการวิจัยที่เกี่ยวข้อง หากมีการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ผู้นิพนธ์ควรบ่งชี้ว่า ได้ดำเนินการวิจัยตามกระบวนการที่เป็นไปตามมาตรฐานคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์

6. บรรณาธิการสามารถยุติการประเมินบทความของผู้ประเมิน หากพบว่าไม่สามารถปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือเงื่อนไข หรือเมื่อผู้ประเมินได้ตกลงที่จะประเมินบทความแล้ว ต่อมาพบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน สามารถแจ้งบรรณาธิการโดยทันที เพื่อที่จะปฏิเสธการประเมินบทความนั้นต่อไป

สำหรับรายงานความเห็นผู้ประเมินบทความควรพิจารณาในประเด็นต่างๆ ได้แก่

- ผลงานวิจัยมีความริเริ่มสร้างสรรค์ ไม่ซ้ำซ้อนกับงานที่ตีพิมพ์มาแล้ว และมีมาตรฐานทางวิชาการ

- ทำการวิเคราะห์ว่าบทความมีการค้นพบใหม่ด้านใดหรือไม่ บทความมีการอ้างอิงเอกสารหรือบทความที่ตีพิมพ์แล้วที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสมและเพียงพอต่อการสนับสนุนเนื้อความและผลการวิเคราะห์หรือไม่

- ผู้อ่านกลุ่มใดที่จะได้ประโยชน์จากการอ่านบทความและตรงตามกลุ่มเป้าหมายผู้อ่านของวารสารหรือไม่

- บทความถูกเขียนมาด้วยภาษาทางวิชาการที่มีการเรียงลำดับเนื้อเรื่องตามหลักตรรกะ และภาษาที่อ่านง่าย เข้าใจ และมีส่วนใดของการเขียนที่ควรปรับปรุงหรือไม่

- การบรรยายผลการทดลองเพียงพอที่ใช้สนับสนุนการวิเคราะห์และสรุปผลการทดลองหรือไม่ หากไม่เพียงพอควรทำการปรับปรุงอย่างไร

- บทความที่ประเมินสามารถนำไปสู่การต่อยอดงานวิจัยได้หรือไม่

- การบรรยายส่วนของวิธีการทดลองในบทความเพียงพอที่จะสามารถทำการทดสอบซ้ำ หรือพิสูจน์ความถูกต้องของการทดลองหรือไม่

 

Publication Frequency

กำหนดการออกปีละ 3 ฉบับ คือ
ฉบับที่ 1 มกราคม – เมษายน
ฉบับที่ 2 พฤษภาคม – สิงหาคม
ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม

 

Open Access Policy

วารสารนี้สามารถเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีนโยบายที่ทำให้งานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ได้รับการอ่านและสามารถถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในระดับสากล

 

Publishing Ethics and plagiarism policy

กระบวนการในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารนี้ เป็นกระบวนการทำงานที่มีความเกี่ยวโยงอย่างเป็นระบบของ ผู้นิพนธ์ ผู้ประเมิน บรรณาธิการ และฝ่ายประสานงานและจัดการ ดังนั้น เพื่อรักษามาตรฐานทางจริยธรรมของการตีพิมพ์เผยแพร่ และการทำงานอย่างมีมารยาทในวงการวิชาการ ฝ่ายประสานงานและจัดการจะทำงานกับบรรณาธิการ ผู้นิพนธ์ และผู้ประเมินอย่างใกล้ชิด วารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม ได้กำหนดความรับผิดชอบทางจริยธรรมของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ละภาคส่วน ดังต่อไปนี้

 

Editors Responsibilities:

1. บรรณาธิการและ/หรือกองบรรณาธิการ มีหน้าที่พิจารณาและตรวจสอบบทความที่ส่งมาเพื่อเข้ารับการพิจารณาตีพิมพ์กับวารสารทุกบทความ โดยพิจารณาเนื้อหาบทความที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของวารสาร รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพบทความในกระบวนการประเมินและคุณภาพบทความก่อนการตีพิมพ์ และคงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตัดสินขั้นสุดท้ายทุกบทความที่ได้มีการประเมินสำหรับการพิจารณาตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร

2. บรรณาธิการพึงรักษาไว้ซึ่งความโปร่งใสของการวิจัยด้วยมาตรฐานทางจริยธรรม และจะยินดีรับพิจารณาที่จะเพิกถอนการตีพิมพ์ หรือแก้ไขคำผิด หากได้รับการแจ้งและร้องขอจากผู้นิพนธ์ 

3. บรรณาธิการควรดำเนินการตัดสินใจพิจารณาต้นฉบับบทความ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่มีคุณภาพ โดยปราศจากการตัดสินใจที่มีอคติใดๆ 

4. บรรณาธิการควรประเมินบทความต้นฉบับบนพื้นฐานคุณค่าเชิงวิชาการ และปราศจากผลประโยชน์ทางการค้าหรือผลประโยชน์ส่วนตน

5. บรรณาธิการไม่ควรเผยแพร่ข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความที่ส่งเข้ามารับการพิจาณาก่อนการตีพิมพ์

6. บรรณาธิการควรตรวจสอบโดยทันทีและอย่างละเอียด หากมีข้อสงสัยการประพฤติผิดในการวิจัยตามอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสม

 Reviewers Responsibilities:

1. ผู้ประเมิน ควรประเมินบทความในสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ ต้องคำนึงถึงคุณภาพบทความเป็นหลัก พิจารณาบทความอย่างละเอียดเชิงสร้างสรรค์ ภายใต้หลักการและเหตุผลทางวิชาการ โดยปราศจากอคติหรือความคิดเห็นส่วนตัว และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับผู้นิพนธ์ และแจ้งผลการประเมินภายในระยะเวลาที่กำหนดจากบรรณาธิการ

2. ผู้ประเมินทำการประเมินบทความต้นฉบับที่ได้รับในด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คุณค่าทางวิชาการ ความสมบูรณ์ของเนื้อหาและโครงสร้าง ภาษาที่ใช้ ความชัดเจนของสมมติฐาน/วัตถุประสงค์ ความชัดเจนของการนำเสนอและการจัดระเบียบบทความ ความถูกต้องทางวิชาการ การอภิปรายผล และการอ้างอิงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ตลอดจนให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อคุณภาพของบทความ

3. ผู้ประเมินไม่ควรเปิดเผยข้อมูลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความที่ส่งมารับการพิจารณาก่อนการตีพิมพ์

4. ผู้ประเมินต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้นิพนธ์หรือเหตุผลอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถให้ข้อคิดเห็นอย่างอิสระได้ โดยผู้ประเมินบทความต้องแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้น

5. ผู้ประเมินต้องแจ้งบรรณาธิการ เมื่อพบหลักฐานการกระทำผิดใดๆ ของจริยธรรมการวิจัยในบทความที่ทำการประเมิน

 Authors Responsibilities:

1. บทความทุกส่วนที่ปรากฏในต้นฉบับบทความจะต้องเป็นงานใหม่ที่ได้มาจากข้อเท็จจริงจากการศึกษา ไม่บิดเบือนข้อมูล ไม่มีข้อมูลที่เป็นเท็จ และปราศจากการคัดลอกผลงาน 

2. บทความไม่ควรถูกตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อน หรือถูกส่งไปรับการพิจารณาในวารสารอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน

3. ผู้นิพนธ์ต้องเปิดเผยผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างชัดเจน 

4. ผู้นิพนธ์ต้องเขียนกิตติกรรมประกาศให้ชัดเจน รวมถึงระบุแหล่งทุนวิจัยที่สนับสนุน 

5. ข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กรจะต้องได้รับการอนุญาตจากองค์กรที่เกี่ยวข้องก่อน

6. ผู้นิพนธ์ที่มีชื่อปรากฏในบทความทุกคน ต้องเป็นผู้ที่ดำเนินการวิจัยหรือมีส่วนในการดำเนินการวิจัยจริง 

7. ห้ามส่งบทความที่มีการเขียนงานให้ผู้อื่นมารับการพิจารณาตีพิมพ์

Plagiarism Policy

การคัดลอกเนื้อหาของผลงานผู้อื่น และการคัดลอกข้อมูลจากผลงานตนเอง เป็นข้อห้ามในวารสารพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรม ทุกบทความที่ส่งเข้ามารับการพิจารณา จะต้องผ่านการคัดกรองโดยใช้ซอฟ์ตแวร์ตรวจจับการคัดลอก